Breaking

Thursday, May 31, 2018

หนูอดทนมาตลอด!! อาม ชุติมา ร่ำไห้ ถูกไล่ออกถึง 4 ครั้ง พร้อมเผยปมแตกหักที่แท้จริง กระจ่างทั้งประเทศ! (รายละเอียด)

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 พ.ค. 2561 อาม ได้เปิดใจเคลียร์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ณ บริษัท พีที เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ย่านสายไหม พร้อมกับคุณแม่และทีมงาน รวมไปถึงนางเกษณี น้ำเงิน ผู้บริหาร บริษัท พีที เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่ขอออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเอง หลังจากที่เคยเปิดบริษัทร่วมกันเพื่อตั้งใจจะปั้นลำไย ไหทองคำ มาด้วยกัน แต่สุดท้ายอีกฝ่ายกลับชิ่งไปเปิดบริษัทเพื่อดูแลลำไยเองด้วย

สาเหตุที่ออกจากค่าย? อาม “ปัญหามีมาสักพักใหญ่แล้วค่ะ เป็นเรื่องผลประโยชน์ ทางค่ายไม่ค่อยดูแลเท่าไร เวลาไปงานมีปล่อยไปงานเองบ้าง ขึ้นเครื่องบินคนเดียวบ้างค่ะ ตามข้อตกลงสัญญา ค่าตัวหนู 70 : 30 ซึ่ง 70 คือของหนู ของทางค่าย 30 ค่ะ แต่ที่ได้รับมามันไม่น่าจะถึง 70 ค่ะ ไม่รู้ได้กี่เปอร์เซ็นต์ (แต่ทางเขายืนยันจ่ายครบทุกบาททุกสตางค์ตลอด?) ไม่นะคะ ไม่ตลอด” เขาบอกว่าเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” เป็นการขายขาด เราก็ได้รับเงินแล้ว? อาม “หนูก็เพิ่งรู้ว่าขายขาดตอนมีข่าวนะคะ ถามว่าจริงๆ มีการเซ็นสัญญามั้ย เซ็นค่ะ แต่เขาไม่ได้บอกว่าเขาซื้อกับหนู เขาให้หนูเซ็นสัญญาเพราะว่ากลัวมีคนมาแอบอ้างเอาเพลงไป ถามว่ามีการพูดคุยเรื่องเพลงยังไงบ้าง ก่อนที่หนูจะตกลงเอาเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ให้พี่ลำไยร้อง ตกลงกันว่าจะขายงานคู่ถ้าเพลงมันดังหรือมีกระแส เป็นคู่พี่ร้องน้องแต่ง จะให้หนูขึ้นคอนเสิร์ตคู่พี่ลำไย และแบ่งเปอร์เซ็นต์เป็นคิวให้ เหมือนอาจารย์แต่งเพลงที่ได้เปอร์เซ็นต์จากศิลปินค่ะ”

แล้วได้บ้างมั้ยตั้งแต่ดังมา? อาม “เปอร์เซ็นต์ที่ได้จากคิวพี่ลำไยก็ไม่ได้ค่ะ เพราะว่ามันเป็นสัญญาใจ เขาบอกว่ามันไม่มีในสัญญา” ที่ส่วนแบ่งจากในยูทูบเราก็ไม่ได้ อันนี้จริงรึเปล่า? อาม “จากยูทูบไม่ได้จริงๆ ค่ะ แต่ว่าตกลงกันจริงๆ นะคะ เขาบอกพ่อกับแม่หนูด้วยว่าจะแบ่งรายได้ที่ได้จากยูทูบ มันก็ได้เยอะ ถามว่าเข้าใจระบบยูทูบมั้ยว่าควรได้เท่าไร หนูก็ศึกษามาอยู่ค่ะ มันบอกเป็นจำนวนไม่ได้ แต่มันก็เยอะพอสมควร แต่เราไม่ได้เลยค่ะ (เราไม่ได้ถามเขาตั้งแต่แรก?) อันนี้เราก็ให้เกียรติว่าถ้าอาจารย์จะให้ก็คงจะให้เอง” ตอนที่เซ็นสัญญา เซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรมั้ย? อาม “มีเป็นลายลักษณ์อักษรค่ะ ถามว่าได้อ่านมั้ยว่าสัญญาระบุว่าไงบ้าง ในสัญญาขายเพลงหนูไม่ได้อ่านค่ะ เขาบอกว่ากลัวคนแอบอ้างจะเอาเพลงไปเป็นของเขา คือเซ็นไว้ให้ค่ายดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ แต่ถ้าหนูหมดสัญญากับค่าย ลิขสิทธิ์กับเพลงก็จะหมดไปด้วย (เราไม่ได้อ่านก่อนเซ็นเลย?) อ่านค่ะ แต่ว่าอ่านแล้วไม่เข้าใจค่ะ อย่างคำว่าโอนสิทธิ์ อันนี้หนูก็อ่านอยู่ แต่ว่าไม่เข้าใจ ทั้งตัวอาจารย์เองก็บอกกับหนูไว้ว่าเซ็นกันไว้ไม่ให้คนอื่นมาแอบอ้าง” ตอนนั้นมีใครช่วยดูเรื่องสัญญาบ้างมั้ย? อาม “ก็มีคุณพ่อคุณแม่ค่ะ พยานก็คือคุณพ่อคุณแม่ค่ะ” ตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่เข้าใจมั้ยว่าถ้าเซ็นจะมีผลยังไงบ้าง? คุณแม่ “คุณแม่ก็ไม่ได้อ่านค่ะเพราะว่าอาจารย์บอกว่าไม่ต้องอ่านหรอก ผมไม่มาฟ้องคุณแม่อะไรหรอกครับ ก็เซ็นเพราะว่าเขาบอกว่าเพลงนี้ต้องให้ผมดูแลนะครับ เขากลัวคนอื่นแอบมาเอาไปครับ ตอนนั้นก็ไว้ใจทุกอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์” ถ้าอามหมดสัญญาแล้ว เพลงนี้ก็จะเป็นของอาม? อาม “ใช่ค่ะ เขาบอกหนูแบบนี้ค่ะ สัญญามี 5 ปีค่ะ หลังจากหมดสัญญา ตัวหนูกับทางอาจารย์เรื่องเพลงก็หมดไปด้วย เพลงก็จะเป็นของอามเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้สัญญายังเหลืออีก 3 ปีค่ะ” เราออกมาแบบนี้ไม่กลัวเขาฟ้องเหรอ? อาม “ก็กลัวแต่ว่ามันอยู่ไม่ได้แล้วค่ะ มันหลายอย่างค่ะ”

นอกจากเรื่องผลประโยชน์แล้วยังมีเรื่องที่คับข้องใจอีกมั้ย? อาม “มีเรื่องที่เขาดูแลค่ะ และเคยไล่ออกด้วย 4 รอบ ตอนนั้นเหมือนเขาอารมณ์ไม่ค่อยดีก็ไล่หนูออก หนูก็ร้องไห้ แม่ก็บอกให้อดทน” ลำไยทราบเรื่องมั้ย? อาม “น่าจะทราบเป็นบางเรื่อง เพราะว่าพี่ลำไยก็ทัวร์คอนเสิร์ต หนูก็ทัวร์คอนเสิร์ตค่ะ” อาจารย์บอกว่าเราน้อยใจที่ไม่มีทุกอย่างเหมือนลำไยในเรื่องรถ บ้าน? อาม “หนูไม่ได้น้อยใจที่ไม่ได้มีเหมือนพี่ลำไย แต่หนูน้อยใจที่ไม่ได้ในส่วนของหนูค่ะ พี่ลำไยเคยซื้อทองให้หนู ตอนที่เอาเพลงให้ร้องช่วงแรกตอนนั้นครึ่งสลึง และอีกรอบนึงจะเป็นตอนงานวันเกิดหนูก็ให้ทอง 1 บาท ตอนปีใหม่ก็ให้ 1 บาท” ตั้งแต่เกิดเรื่องคุยกับลำไยรึยัง? อาม “มีค่ะ ก็บอกว่าจะไม่อยู่แล้วนะ พอบอกไปเขาร้องไห้ (ความสัมพันธ์เรากับลำไยยังเหมือนเดิม?) เหมือนเดิม ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ” ข่าวว่าเราไปทำจมูกเลยทำให้อาจารย์ไม่พอใจเพราะเรารับงานไม่ได้? อาม “อันนั้นคือหลังจากที่หนูมั่นใจว่าคงจะไม่มีงานยาว เพราะเขาบอกว่าเขาจะยกเลิกทั้งหมด แล้วทางเจ้าภาพโทรมาสอบถามว่าหนูติดอะไรเหรอ หนูก็บอกว่าหนูไม่ได้ติด แต่มีงานอะไรอาจารย์ไม่ได้แจ้งมาอยู่แล้วเพราะบอกเป็นคิววันต่อวัน หนูก็เลยไม่รู้ (อาจารย์บอกว่าต้องทำช่วงหน้าฝนเพราะไม่ค่อยมีงาน แต่เราก็แอบไปทำก่อน?) อันนี้อาจารย์ไม่ได้แจ้งนะคะ อาจารย์เคยแจ้งตอนที่ผู้สาวขาเลาะกำลังถ่ายทำค่ะ บอกว่าถ้าหนังเสร็จก็จะให้เสริมจมูก ถามว่าตอนทำได้แจ้งอาจารย์มั้ย หนูไม่ได้แจ้งอาจารย์ แต่แจ้งพี่ตุ๊ดนานแล้วว่าก่อนที่หนูจะรู้ว่ามีคิวงานค่ะ หนูบอกว่างั้นหนูขอล็อกคิววันที่ 6 ไว้ พี่ตุ๊ดก็โอเคตกลง พอถึงวันที่ 6 ช่วงเย็น เจ้าภาพก็โทรมาบอกว่าทำไมหนูไม่มางาน หนูก็งงว่าหนูมีงานด้วยเหรอ คือก่อนหน้านี้หนูมีตารางงาน แต่ว่าช่วงก่อนเสริมจมูก หนูมีปัญหากันแล้ว ประมาณ 1 เดือนได้ ตั้งแต่ก่อนที่หนูจะเสียงหายไปเลยน่ะค่ะ” อาจารย์บอกว่าที่เราโพสต์เพราะอยากดัง? อาม “หนูไม่อยากให้ใครรู้ด้วยซ้ำว่าปัญหาข้างในจะเป็นยังไง หนูเก็บคนเดียวมานานพอสมควรค่ะ พูดง่ายๆ ไม่อยากสาวไส้ให้กากิน” วันนี้ตัดสินใจแถลงข่าว เราคิดยังไงถึงต้องออกมาพูด? คู่กรณีของประจักษ์ชัย “คือพี่ๆ เป็นคนคิด น้องไม่ได้อยากออกมาเปิดโปง” อาม “ที่เขากล่าวหาว่าหนูตั้งค่ายเอง อันนี้ไม่ใช่นะคะเพราะว่าหนูแค่เปิดช่องยูทูบแชนแนล แล้วเอาคลิปวิดีโอคัฟเวอร์ คลิปถ่ายเล่น คลิปแสดงสดลงเฉยๆ ค่ะ เพื่อแฟนคลับจะได้เห็นความเคลื่อนไหวของเราตลอด ถามว่ามีรายได้เข้ามาเกี่ยวข้องมั้ยไม่มีค่ะ เราไม่ได้สร้างรายได้จากยูทูบ หนูก็ให้เกียรติทางค่ายด้วยค่ะ เราไม่ได้สร้างรายได้ตัดหน้าค่ายค่ะ” สรุปถึงปัญหาหลักๆ ที่ทำให้ตัดสินใจออกมา? อาม “ปัญหาหลักๆ ของหนูคือเรื่อง 70:30 ค่ะ” สิทธิ์เพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ยังเป็นของเราหรือเขา? อาม “ก็น่าจะเป็นของเขา” คู่กรณีของประจักษ์ชัย “เรื่องสิทธิ์เนี่ยเดี๋ยวให้ทางกฎหมาย พอดีพวกพี่ๆ เข้ามาช่วยน้อง จริงๆ พวกเราเห็นเหตุการณ์นี้ เราเป็นผู้เสียหายจากประจักษ์ชัยไง ก็เลยติดต่อไปทางน้อง จริงๆ ไม่ได้รู้จักกันนะ เพียงแต่รู้ว่าเขาไปอยู่ไหทองคำ เราก็เลยบอกว่าเดี๋ยวพี่ช่วยออกมาเป็นเกราะกำบังให้ จริงๆ เรื่องหลายๆ อย่างเวลาเราจะพูดอะไรก็ต้องดูเพราะน้องเขายังเป็นเยาวชน เยาวชนมีศาลคุ้มครองอยู่ เราจะเอาตรงนี้เข้าสู่กระบวนการตรงนั้น ทุกคนตัดสินไม่ได้ว่าน้องพูดผิด หรือถ้าน้องพูดผิดต้องมีผู้ใหญ่ตักเตือนเขา ไม่ใช่ออกมาซ้ำเติมเขา แต่ทีนี้กระบวนการมันซ้ำเติมเขาหมดเลย คือพี่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมทำบริษัท พีที เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด คือย้อนกลับไปปี 2559 ประจักษ์ชัยทำสัญญาเปิดบริษัทกับพี่ มันก็ต้องอิงถึงเรื่องของลำไยด้วย พี่เป็นผู้เสียหาย ที่พี่ออกมาวันนี้เพราะเราเปิดบริษัทร่วมกัน ปั้นลำไยด้วยกัน แล้วเขาเอาลำไยออกไปตั้งค่ายเอง ซึ่งพี่มีหลักฐานทั้งหมดทุกอย่าง มีหนังสือจดทะเบียนบริษัทด้วยกันกับประจักษ์ชัย โดยประจักษ์ชัยมาจากผู้ใหญ่ท่านนึงพาลำไยกับเขามาเพื่อเปิดค่ายเพลงกัน เราเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด มันก็จะมีเนื้อหาตามข่าวที่เราเคยให้ไปแล้วครั้งนึง (โชว์หลักฐาน) มันมีคำพูดนึงที่เขาพูดเพื่อหลอกให้เราตายใจว่าจะช่วยกันปั้นลำไย แต่สุดท้ายเขาบอกว่าผมให้ลำไยไม่ได้นะ เพราะว่าลำไยเป็นชีวิตผม เราก็เลยงงว่าอ้าว ที่ให้เราปั้นมา ที่ให้เราเสียค่าใช้จ่ายมา คุณชดใช้เราอะไรได้บ้าง แต่เขาไม่ชดใช้เลย จริงๆ พี่ไม่เคยเรียกร้องเขามาก่อนเลยนะ เพราะมันตั้งแต่ปี 59 จนเมื่อปีที่แล้วมีประเด็นเรื่องอาจารย์ชาย พ่อบุญธรรม เราก็เลยอยากมาช่วยอาจารย์ชายเพราะเขาเป็นส่วนนึงในการดูแลลำไยมาก่อน เราก็เลยออกมาให้ข่าวกับทางไทยรัฐว่าเราเคยเป็นผู้ดูแลลำไยมาก่อน แต่ตอนนั้นกระแสสังคมโจมตีเรา ตอนที่เขาดังช่วง มี.ค. เขาก็ยังอยู่กับเรานะคะ ไม่ใช่ดังเพราะประจักษ์ชัยปั้นเขาทั้งหมด” ตอนนั้นเซ็นให้น้องอยู่ในสังกัดเรามั้ย? คู่กรณีของประจักษ์ชัย “ไม่ คือประจักษ์ชัยเอาลำไยมาบอกว่าเดี๋ยวมาปั้นลำไยกัน ก็เปิดค่าย ช่วงที่เราปั้นเราไว้ใจเขา เราก็เชื่อคำพูดเขาหมดเลย พอเราก็บอกว่าลำไยเริ่มดังแล้วนะ เขาก็บอกว่างั้นเดี๋ยวผมมาเปิดบริษัทร่วมกัน มันยังอยู่ในกระบวนการจัดตั้งบริษัท เราก็มั่นใจว่าไม่เป็นไร ในเมื่อเขาเป็นผู้จัดการของลำไยอยู่แล้ว เขามาเปิดบริษัท มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรา เราก็สามารถที่จะเรียกร้องตรงนี้ได้เพราะมีบริษัทมีชื่อเขาอยู่ด้วย แต่คนนี้ไม่ธรรมดา พอเริ่มมีงานยาวเหยียด เขาบอกว่าเขาไม่ว่างโน่นนี่ เขามีรายได้โดยไม่ต้องใช้เงินเราแล้ว เขาเอารถตู้ที่เราออกให้เขาไปวิ่งงาน เขาไม่เคยจ่ายค่างวดรถ เราไม่เคยได้เงินจากเขาสักบาทเดียว ใบแจ้งหนี้ค่าโทรศัพท์ยังอยู่ที่นี่เลย ถ้าเราไม่ออกมา สังคมจะรู้มั้ยว่าเขาเป็นคนแบบนี้” ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เราเสียหาย? คู่กรณีของประจักษ์ชัย “130,000 บาทค่ะ เมื่อก่อนไม่คิดจะฟ้องเขาหรอก แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจ เพราะสถานะเขาเปลี่ยนไป เมื่อก่อนเราให้โอกาสเขาว่าวันนึงเขาอาจจะนึกถึงเราก็ได้ แต่เนื้อหาที่เขาแก้ข่าวไม่เป็นความจริง พอเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อจะพูดอีกอย่างว่าทางนี้จะล็อบบี้เกี่ยวกับเรื่องสัญญาเด็ก 8 ปี ซึ่งเด็กๆ ในค่าย 12 คนไม่เคยมีใครถึง 8 ปีเลย แต่ละคน 2 ปี เขาบอกว่าที่เขาไม่ทำกับเราเพราะเราจะเซ็นสัญญากับลำไย 8 ปี คือเราไม่เคยพูด ขนาดเซ็นก็ไม่ได้เซ็น สอง เงิน 130,000 บาท เขาบอกว่าคู่กรณีช่วยด้วยความเสน่หา คือจากที่เราเคยช่วยเหลือ เขากลับบอกว่าเราเป็นคู่กรณีเขา ดูแลเขาด้วยความเสน่หา” ในข่าวบอกว่าอามให้แม่บ้านไปขโมยเอาสัญญาบริษัท? อาม “คือแม่บ้านเป็นคนทักเฟซหนูมาและส่งใบสัญญามาให้แล้วบอกว่าจะเอามาให้หนู อยากมาอยู่กับหนู หนูก็อยากได้อยู่แล้ว เอาตามความจริงน่ะ หนูก็โอเคตกลง แล้วถามว่าจะให้ทำยังไง เขาก็บอกอยากให้หนูเข้าไปเอาในบริษัท หนูก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ เอะใจว่าทำไมมันง่ายจัง แล้วเขาก็ถ่ายใบลิขสิทธิ์เพลงมา ซึ่งมีเพลงที่เซ็นไว้ 3 เพลง คือเพลง อดีตเคยพัง, ผู้สาวขาเลาะ, ภาพเก่า น้องก็บอกว่าให้หนูเข้าไปเอาเอง แล้วจะบอกว่าอยู่ที่ไหน จะให้คนขับรถไปเอา คือมันเหมือนเป็นแผน สรุปเขาก็ยังทักมาอีกให้หนูไปเอา แต่หนูไม่ได้ตอบเขาและไม่ได้เข้าไปเอง ซึ่งข้อความที่หนูคุยกับแม่บ้านหนูเก็บไว้ค่ะ” หลังจากออกมาแล้วการรับงาน รับยังไง ถ้ารับแล้วจะผิดสัญญามั้ย? อาม “หนูก็ยังไม่รับค่ะ ว่างงานไปก่อน” คู่กรณีของประจักษ์ชัย “ประจักษ์ชัยบอกว่าจะเข้ามาเคลียร์ ป่านนี้เขายังไม่ออกมาเคลียร์ ตอนที่เขาจะไล่น้องอาม บอกให้กลับบ้านออกไปเลย ไปหารถใช้เอง 70 คิวยกเลิกหมดที่รับหมด” อาม “ยกเลิกแต่ไม่บอกหนูนะ หนูรู้จากเจ้าภาพ” ทีมงาน “น้องอามโทรไปหาเจ้าภาพ เจ้าภาพบอกไม่ต้องมา เขาโทรหาบอกว่าเดี๋ยวเอาคนไปแทน ตอนนี้ให้สื่อเป็นคนประสานดีกว่า” อาม “เดี๋ยวหนูขอชี้แจงเรื่องที่นายห้างบอกให้มา 7 แสนคือ ไม่ได้ 7 แสนนะคะ ที่บอกว่าให้เป็นสินน้ำใจ แต่ไม่ถึง 7 แสน แต่ถามว่าให้มั้ยให้จริงๆ ค่ะ ให้ดาวน์รถ 1 แสนบาท ให้ทำรั้วบ้าน 5 หมื่นบ้าน แล้วก็ช่วยต่อเติมบ้าน 8 หมื่นบ้าน และซื้อโทรศัพท์ให้ 2 เครื่อง เขาพาไปซื้อเองหนูไม่ได้ขอ เขาบอกให้ของขวัญปีใหม่” สรุปก้อนนี้ใช่ที่ตกลงกันมั้ย 70/30? อาม “70/30 อันนี้เป็นเรื่องคิวงาน (7 แสนที่บอกว่าจะให้ ให้เพราะอะไร?) 7 แสนหนูไม่ได้ แต่เงินที่เขาให้ เขาให้พ่อกับแม่ ได้แต่ไม่ถึง 7 แสน ให้เฉยๆ โดยเสน่หา” ต่อจากนี้จะดำเนินการตามกฎหมายมั้ย เพราะสัญญาอยู่กับเขา? อาม “อยากจะลองของเขาคืน แต่หนูเคยไปขอแล้ว เขาบอกว่า 2 ล้านก็ไม่ให้” ถ้าเขายื่นข้อเสนอมาเป็นจำนวนเงินและยินดีจะยกเลิกสัญญา เรายินดีจะรับข้อเสนอนั้นมั้ย? อาม “อันนี้ก็แล้วแต่ (ทีมงานข้างหลังบอกให้พูดว่ายินดี) ยินดีเหรอ (หัวเราะ) ต้องดูเงินหนูก่อน” 70/30 ได้ค่าตัวแต่ละครั้งเท่าไร? อาม “เท่าที่ไปแต่ละครั้งไม่ว่ารับเชิญหรือเต็มวง ก็ได้ 1 หมื่น-1.5 หมื่น บางครั้งก็ 5 พัน” ค่าตัวรวมกับใครมั้ย? อาม “ของหนูคนเดียวค่ะ” เรตค่าตัวน้องอาม? อาม “รับเชิญ 3.5 หมื่น ถ้าเต็มวง 6.5 หมื่น หนูไม่เคยทักท้วงเพราะเขาเป็นคนให้เขาน่าจะรู้ดี” นานมั้ยที่ได้เงินจำนวนนี้? อาม “ประมาณปีที่ผ่านมา” แต่ละครั้งรู้มั้ยว่าได้เงินเท่าไร? ทีมงาน “ไม่รู้เรื่อง เขาไม่เคยแจ้งเลย” แล้วเขาบอกมั้ยว่าค่าตัวแต่ละครั้งที่เราได้รับมันเรตมาจากอะไร? ทีมงาน “เขาไม่บอก เราเล่นเสร็จลงมาเขาก็ให้แล้วแต่ เพิ่งมาได้ 1.5 หมื่นช่วงม.ค.-ก.พ. น้องอามก็ไม่ได้ทักท้วง” ทำไมตอนแรกอดทนได้แล้วตอนหลังมาเกิดปัญหา? อาม “จริงๆ แล้วมันแตกหักก่อนที่จะโพสต์ แต่ไม่มีใครรู้ ก่อนที่หนูจะโพสต์ นายห้างโพสต์เหน็บหนู อย่าง อดีตเคยพัง อนาคตก็จะพัง หรือว่า ไม่แฮปปี้กับการทำจมูกเพราะว่าน้องอามอะไรๆ หนูก็เลยอยากจะชี้แจงว่าทำไมไม่เอาความจริงที่ตกลงกันไม่ได้มาพูด เงินยูทูบตกลงกับหนูว่าจะให้ แต่มาไม่ให้บอกว่าไม่มีในสัญญา” มีโอกาสจะได้เข้าไปคุยเคลียร์กันมั้ย? อาม “ก็ยังนะคะ” อยากพูดอะไรถึงประจักษ์ชัย? อาม “อยากจะให้เขาพูดความจริง อยากจะขอโอกาสทำงานมาทำเองดีกว่า เพราะมันไม่สบายใจ อยากสบายใจ” มีข่าวมาว่ามีครอบครัว เป็นประเด็นที่ทำให้ออกจากครอบครัว? อาม “แฟนหนูไม่มี (แม่พูดเสริม แม่อยู่กับน้องอามตลอดเวลา จะกิน จะนอน ไปไหนมาไหนแม่อยู่ด้วยตลอด ไม่เคยมีครอบครัว)” ทีมงาน “มีภาพลับน้องไปให้แฟนคลับน้องอันนี้เรื่องใหญ่นะ อันนี้เพื่อทำร้ายน้องเลย จริงๆ น้องกำลังรวบรวมหลักฐาน” อาม “ตอนนั้นเป็นภาพที่หนูสักและดื่มเหล้า ไปเที่ยว เขาเอามาบอกว่าเปิดเผยภาพลับ” ที่เรามีปัญหาวันนี้เพราะเรามีความไว้ใจทำสัญญากับนายห้างมากเกินไป? อาม “ถามว่าไว้ใจมั้ย ไว้ใจมากๆ ที่ผ่านมารู้กฎหมายบ้างไม่รู้บ้าง แต่พูดอะไรไม่ได้เพราะทำตามขอบเขต (ทีมงานเสริมที่น้องทำสัญญาเพราะคิดว่าจะเป็นตามสัญญาที่เซ็น แต่ต้นสังกัดไม่ทำตามสัญญา น้องก็เลยไม่ทน)” คุณแม่คิดมั้ยว่าลูกขายจะโดนโกง เลยชะล่าใจไม่อ่าน? แม่ “ชะล่าใจจริงๆ แกก็พูดดี อย่างนั้นอย่างนี้ แม่ก็เลยเซ็นเลย” สรุปค่าลิขสิทธิ์ที่ให้มา 1 หมื่นบาท ก็จบเลย? อาม “ตอนที่เขาให้หนูมาเขาบอกเป็นรางวัลคนเก่ง เขาบอกแบบนี้ ไม่ได้บอกว่าซื้อขาด หนูจะบอกตลอดว่าหนูไม่ขาดเพลงเพราะหนูขายไม่เก่ง สรุปก็คือหนูไปเซ็นแล้วโดยไม่ได้อ่าน ถึงอ่านก็ไม่เข้าใจ” เงิน 1 หมื่นได้พร้อมกับเซ็นสัญญามั้ย? อาม “ไม่ค่ะ เซ็นก่อนแล้วค่อยโอนเงินให้ทีหลัง ให้เพลงละหมื่นค่ะ ทั้งหมด 3 หมื่น” ที่มาตั้งโต๊ะแถลงข่าวต้องการอะไร? ทีมงาน “ต้องการให้สังคมรู้ไงคะว่าคุณประจักษ์ชัยที่เค้ามีกิน มีใช้ร่ำรวยอยู่ทุกวันนี้ เค้าไม่ได้มีคิดมีทำด้วยตัวเค้าเอง แต่เค้าอาศัยความไว้ใจของคนอื่น แล้วก็ชุบมือเปิบเอาทุกอย่างไปเป็นของตัวเองทั้งหมด แม้กระทั่งตัวน้องลำไยเอง ซึ่งน้องลำไยไม่ทราบหรอก จะมีบุคคลนี้เอาตัวลำไยไป” ส่วนทางทีมงานก็ได้ขอชี้แจงอีกว่า เดิมทีนั้น ลำไย ไหทองคำ หรือ อ้าย เคยเป็นนักร้องในสังกัดตนมาก่อน ตั้งแต่ปี 57 ทำสัญญาไว้ 5 ปี จะหมดสัญญาในปี 62 ชื่อเดิมคือ หอยแครง แสงตะวัน แล้วเด็กในสังกัดคนแรกคือ เมรัย ไหทองคำ โดยจะเผยแพร่เพลงทางยูทูบ ซึ่งทางประจักษ์ชัยได้มาจดลิขสิทธิ์ในชื่อ ไหทองคำ เรคคอร์ด และลำไยมาอยู่กับตนเองตั้งแต่เป็นแดนเซอร์และฝึกร้อง ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้เก่งอะไร มีเพลง 2 ซิงเกิล และช่วงเดินสายโปรโมตก็เริ่มมีชื่อแล้ว พอมีชื่อปุ๊บน้องก็ไปโรงเรียน เลยทำให้มีผลกระทบต่อการรับงาน ซึ่งสัญญาตอนนี้ก็ยังไม่ได้ยกเลิก และเรื่องก็อยู่ในชั้นศาลแล้ว กำลังเดินหน้าฟ้องทั้งประจักษ์ชัยและลำไยทั้งคู่ ซึ่งเจ้าตัวก็รู้เรื่อง ไกล่เกลี่ยไป 4 ครั้งแต่ไม่ลงตัว คือตนเองไม่ต้องการเงิน แค่มาขอโทษอย่างเดียวพอก็ได้ และมาคุยกัน ซึ่ง 3 คนนั้นเค้าไม่มาเลย แต่มาครั้งที่ 4 เค้าถามว่า ต้องการเงินเท่าไร ถ้าฉีกสัญญา ตนเองก็ได้บอกไปว่า 3 ล้าน ซึ่งทางประจักษ์ชัยบอกว่ามันเยอะไป เดิมทีตอนที่ลำไยอยู่กับผมเค้าบอกว่า ไปเรียน เลยทำให้ต้องรับงานศุกร์เสาร์ ซึ่งพอเป็นแบบนั้นเลยทำให้งานน้อยลง

คลิปตัวอย่าง
คลิปจาก ข่าวดัง เฟสบุ๊ค

No comments:

Post a Comment

Pages